“วิสุทธิ์” เผย เพื่อไทยจ่อเดินสายขอเสียง สว. ผ่านแก้รัฐธรรมนูญ มั่นใจเทเสียงให้ครบ มองรัฐบาลเร่งดันกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร เข้าสภาฯ เชื่อชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจได้
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 มกราคม 2568 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา ถึงกรณีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นๆ ว่า น่าจะมี 2 ร่าง ในส่วนพรรคเพื่อไทย ยืนยันหนักแน่นไม่แก้ไขหมวด 1 หมวด 2 และให้ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาร่างรัฐธรรมนูญ จะกำกับว่าไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 และไม่แตะเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบันเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนพรรคอื่นต้องทำความเข้าใจหรือไม่ โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยที่ท่าทีการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่มีความชัดเจน นายวิสุทธิ์ ตอบว่า ยังมีเวลาทำความเข้าใจกัน ถือเป็นความสวยงามระบอบประชาธิปไตย แม้แต่ในพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้สั่งซ้ายหันขวาหันได้ ต้องใช้วิธีทำความเข้าใจ ขอเป็นมติให้แต่ละเรื่องผ่านไป ความต่างทางความคิดถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ทำให้เดือดร้อนหรือแตกแยก และหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เชื่อว่า สว. ก็อยากให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย เดินหน้าได้ รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงยังมั่นใจจะได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว.
ส่วนคำถามที่ สว. บางส่วนมองว่ายังไม่จำเป็นต้องยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ นายวิสุทธิ์ ระบุว่า หากจะแก้รายมาตราก็มีคนค้านทำไมไม่แก้ทั้งฉบับ พอจะแก้ทั้งฉบับก็มีคนบอกว่าทำไมไม่แก้รายมาตรา เป็นปกติที่มีความต่างด้านความคิด สุดท้ายต้องมีทางออกที่เป็นไปได้ เมื่อถามอีกว่าจะต้องเดินสายขอคะแนน สว. หรือไม่ นายวิสุทธิ์ บอกว่า เป็นธรรมดา ขอผ่านสื่อก็ได้ ฝากถึง สว. ทุกท่าน ตนต้องการ 80-90 เสียง หรือจะเทให้ 200 เสียงก็ยินดี
…
จากนั้นเมื่อถามถึงกรณี ครม. มีมติเห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ก่อนที่เรื่องดังกล่าวจะมาถึงวิปรัฐบาล ต้องผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อน จะใช้เวลาเดือนเศษในการพิจารณา ในสมัยประชุมนี้อาจจะทันการพิจารณาวาระ 1 แต่ในรายละเอียดเองยังไม่เห็น
ส่วนประเด็นว่าจะมีปัญหาหรือไม่ เนื่องจากในพรรคร่วมรัฐบาลยังมีความเห็นไม่ตรงกันนั้น นายวิสุทธิ์ ระบุว่าไม่น่าจะมีปัญหา ขณะนี้ไม่มีใครทักท้วงอะไร คณะกรรมการกฤษฎีกาก็ไม่คัดค้าน แต่มีข้อเสนอบางเรื่องต้องทำให้ชัดเจน ชี้แจงให้ประชาชนทราบ ไม่ใช่บ่อนพนันเพียงอย่างเดียว มีอีกหลายอย่างที่สามารถสร้างเศรษฐกิจ เป็นหน้าที่กระทรวงการคลังต้องชี้แจงต่อประชาชน
ทางด้านคำถามว่าต้องออกกฎหมายเพื่อมารองรับหรือไม่ เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านนำพื้นที่ดังกล่าวไปใช้ทำสิ่งผิดกฎหมาย นายวิสุทธิ์ ตอบว่า ดูข่าวทุกวันที่มีการนำพื้นที่ดังกล่าวไปทำเป็นศูนย์บัญชาการขบวนการคอลเซ็นเตอร์ คิดว่าคงอยู่อีกไม่นาน เพราะรัฐบาลหลายประเทศร่วมกันจัดการเรื่องไม่ถูกต้องให้ถูกต้อง เรื่องการพนันห้ามไม่ได้ ที่ไหนก็มีทั่วไป แค่ต้องทำให้ถูกต้อง ส่วนที่มีประชาชนคัดค้านนั้นเราต้องรับฟัง เป็นหน้าที่รัฐบาลต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ.