“สส.จุลพงศ์ อยู่เกษ” จี้ “ชำนาญวิทย์” ต้องรีบเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ คืนวัด ขู่ เสี่ยงคุก 2 ปี หากยังนิ่งเฉย จ่อตั้งกระทู้ถาม “อนุทิน” กลางสภาฯ ด้าน “รองปลัด มท.” ไม่ให้สัมภาษณ์สื่อที่ดักรอ บอกต้องเป็นไปตามระเบียบการให้ข่าว
วันที่ 17 มกราคม 2568 ที่รัฐสภา นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) แถลงว่า ตนขอเตือนไปถึงนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดมหาดไทย ที่รับผิดชอบกรณีที่ดินอัลไพน์ สั่งการเพิกถอนการขายที่ดินระหว่างมูลนิธิมหามงกุฎราชวิทยาลัย ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา กับกลุ่มบริษัทอัลไพน์ ในฐานะผู้ซื้อโดยเร็ว โดยจะใช้วิธีตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเหมือนกรณีที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ไม่ได้แล้ว เพราะอธิบดีกรมที่ดินคนปัจจุบันเคยให้สัมภาษณ์ว่า กรณีเขากระโดงไม่เหมือนกรณีที่ดินอัลไพน์ ซึ่งหมายความว่า กรณีเขากระโดงเป็นการออกโฉนดและเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ ต่างจากกรณีที่ดินอัลไพน์เพราะเป็นเรื่องของการเพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดิน
นายจุลพงศ์ กล่าวต่อว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ออกมายอมรับว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรมช.มหาดไทย เคยลงนามในกรณีนี้ให้มหาดไทยดำเนินการตามกฎหมาย คือเห็นชอบการเพิกถอนการจดทะเบียนนิติกรรมการโดยขายที่ดิน โดยมีการอ้างถึงความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของธรณีสงฆ์จึงโอนขายเชิงพาณิชย์ไม่ได้ และนายชาดาได้ลงนามไปตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2567 ก่อนที่จะพ้นจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย อีกทั้งล่าสุด ปลัดมหาดไทยยังให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้อยู่ในการพิจารณาของนายชำนาญวิทย์ แต่ตอนนี้นายชำนาญวิทย์ก็ยังไม่ออกคำสั่งยกเลิกคำสั่งของอดีตรองปลัดมหาดไทยในขณะนั้น ซึ่งตนเป็นห่วงว่านายชำนาญวิทย์กำลังสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดตามมาตรา 49-54 เรื่องการเพิกถอนคำสั่งทางปกครองตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง ปี 2539 ที่บัญญัติว่า “ต้องเพิกถอนคำสั่งที่ออกมาเพื่อ เพราะมีการชักจูงโดยการให้ประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย” เพราะคำสั่งของอดีตรองปลัดมหาดไทยคนดังกล่าว ทางศาลอาญาทุจริตฯ วินิจฉัยแล้วว่า เป็นคำสั่งที่มิชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นตามกฎหมายแล้วนายชำนาญวิทย์ต้องยกเลิกคำสั่งที่มิชอบนี้ได้เอง โดยไม่ต้องมีผู้ร้องหรือให้รัฐมนตรีสั่งการแต่อย่างใด
…
“ผมขอเตือนไปยังนายชำนาญวิทย์ว่าท่านต้องรีบเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว เพื่อให้ที่ดินที่เป็นธรณีสงฆ์ตามความเห็นของกรรมการกฤษฎีกา กลับมาเป็นของวัดธรรมิการามวรวิหาร ตามพินัยกรรมของยายเนื่อม และอาจจะรวมไปถึงปลัดมหาดไทยที่หากไม่ดำเนินการ โดยคิดว่าแม่นยำในข้อกฎหมาย และระเบียบราชการคงไม่มีใครทำท่านได้ ผมขอให้ดูกรณีอดีตรองปลัดมหาดไทยเป็นตัวอย่าง ที่ถูกลงโทษจำคุก 2 ปี และหากนายชำนาญวิทย์ยังละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อาจเจอข้อหาดังกล่าวเช่นกัน สำหรับในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร หากข้าราชการประจำไม่ขยับ คือไม่ทำอะไรเลยภายใน 2-3 เดือนนับจากนี้ ตนจะตั้งกระทู้ถามนายอนุทิน ว่าสั่งให้ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยปฏิบัติตามกฎหมายในกรณีที่ดินอัลไพน์อย่างไร” นายจุลพงศ์ กล่าว
รองปลัด มท. ไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ ปมเพิกถอนที่ดินอัลไพน์
ขณะที่วันนี้ ผู้สื่อข่าวได้มาเกาะติดที่หน้าห้องทำงานของนายชำนาญวิทย์ เพื่อสอบถามความชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินการ ซึ่งนายชำนาญวิทย์ ติดประชุมเรื่องการแก้ไขปัญหาสัญชาติ ที่อพยพเข้ามาในราชอาณาจักรไทย และมีแขกเข้าพบตลอดเวลา ภายหลังจึงได้ให้เจ้าหน้าที่แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าไม่ให้สัมภาษณ์ เพราะการให้ข่าวต้องเป็นไปตามระเบียบการให้ข่าว และต้องให้ทางผู้บังคับบัญชาอนุญาตก่อนจึงจะสามารถให้สัมภาษณ์ได้
สำหรับนายชำนาญวิทย์ จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2568 นี้ โดยก่อนหน้านี้นายอนุทินได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องอำนาจในการเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ว่า ขณะนี้เรื่องอยู่ที่นายชำนาญวิทย์ ถือเป็นดุลยพินิจของนายชำนาญวิทย์แล้ว ที่จะดำเนินการ ซึ่งหากไม่ดำเนินการจะมีความผิดข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157